นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ภาวะส่งออกสินค้าไทยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ว่า จะมีมูลค่าส่งออกประมาณ 54,500-56,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.4 -5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 และขยายตัว 12.1-16.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนภาพรวมทั้งปี 54 คาดว่จะมีมูลค่าส่งออก 219,000 227,000 ล้านดอลลาร์ หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.4-16.5% โดยมีตลาดจีน, อินเดีย และอาเซียนเป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกไทย ส่วนตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป(อียู) จะไม่เติบโตมาก แต่ยังคงต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้
นายอัทธ์ ยังกล่าวถึงปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกของไทยไตรมาส 2 ว่า ประกอบด้วย 1.การผลิตโลกยังขยายตัวได้ดี แม้ว่าจะเกิดภัยธรรมชาติในญี่ปุ่น 2.ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งน่าจะกระทบการส่งออกไทยไม่มากนัก เพราะไทยส่งออกไปลิเบีย ตูนีเซีย อียิปต์ และบาร์เรน เพียงแค่ 0.7% ของการส่งออกทั้งหมด
3.ปัญหาราคาน้ำมันที่กระทบต่อต้นทุนการขนส่ง และการผลิตของไทย โดยเชื่อว่าในปีนี้ราคาน้ำมันน่าจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 120-130 ดอลลาร์/บาร์เรล และบางช่วงอาจขึ้นไปแตะ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะการผลิตน้ำมันมีปัญหา ขณะที่ความต้องการใช้จากจีน และสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก และ 4.ปัญหาอุทกภัยภาคใต้ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 โดยเฉพาะยางพารา และกุ้งที่มีการผลิตหลักอยู่ในภาคใต้
"ปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ส่งออกต้องจับตามองเป็นพิเศษ คือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และภัยธรรมชาติที่เกิดถี่ขึ้น ส่วนค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะสินค้าไทยยังแข่งขันได้อยู่ในตลาดโลก" นายอัทธ์ กล่าว