World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 11 เมษายน 2554

ข่าวต่างประเทศ Monday April 11, 2011 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า ไอเอ็มเอฟได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลโปรตุเกสแล้ว และไอเอ็มเอฟจะร่วมมือกับคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่อประเมินปัจจัยทางเทคนิคเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันของโปรตุเกส โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้โปรตุเกสสามารถรับมือกับปัญหาทางเศรษฐกิจได้

-- นายจาคอบ ซูมา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เปิดเผยว่า พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ยอมรับแผนสันติภาพของสหภาพแอฟริกาแล้ว เพื่อที่จะยุติความขัดแย้งต่างๆในลิเบีย

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในภาคเอกชนของญี่ปุ่น ร่วงลง 2.3% ในเดือนก.พ. แตะระดับ 7.488 แสนล้านเยน มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ของสำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะขยับลงเพียง 0.9%

-- สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นแตะ 13,116 ราย และจำนวนผู้สูญหายเพิ่มขึ้นแตะ 14,377 ราย ณ เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับลดการประเมินภาวะเศรษฐกิจใน 7 เขตจากทั้งหมด 9 เขตภายในประเทศ เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตหลายประเภท และยังเป็นเหตุให้เกิดภาวะขาดแคลนพลังงาน อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

-- สำนักงานสถิติอินเดียเปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมอินเดียในเดือนก.พ.ขยายตัวช้าลงที่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.9% ในเดือนก่อนหน้านี้

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่นวันนี้ และได้มีการประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ

-- รัฐบาลญี่ปุ่นได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 30 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ให้อพยพออกจากพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้อพยพออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากมีการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีในอากาศ

-- หลี่ เตากุย สมาชิกคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จีนยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

นายหลี่ระบุว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ่อยครั้งของจีนในระยะที่ผ่านมานี้ อาจจะทำให้เกิดกระแสเงินร้อนไหลเข้า แต่เพื่อเป็นการดูแลระบบการเงินภายในประเทศให้มีเสถียรภาพ จีนจึงยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ