นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน หรือ ASEAN Finance Ministers’ Meeting (AFMM) เมื่อวันที่ 8 เม.ย.54 ที่ประเทศอินโดนีเซียว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านต่างๆ ภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียนตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ตลอดจนประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน
โดยที่ประชุมฯ ได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะให้ภาคการเงินมีการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและความมีเสถียรภาพ พร้อมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตาม Roadmap for Monetary and Financial Integration of ASEAN ซึ่งอยู่ภายใต้แผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC Blueprint) ซึ่งประกอบด้วย ด้านการพัฒนาตลาดทุน ด้านการเปิดเสรีบัญชีทุนเคลื่อนย้าย และด้านการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ทั้งนี้ถือว่าแผนดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในการเจรจาเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินรอบที่ 5 ที่ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย ขณะนี้ประเทศสมาชิกอยู่ในระหว่างการดำเนินการภายในเพื่อให้สามารถลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินรอบที่ 5 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนได้ โดยคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงการประชุมประจำปีผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชียในเดือนพ.ค.54 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 ที่ประชุมฯ ได้ให้ความเห็นชอบในการปรับบทบาทของหน่วยงานระวังภัยทางเศรษฐกิจของสำนักเลขาธิการอาเซียนให้เป็นหน่วยงานติดตามการรวมตัวของอาเซียน (ASEAN Integration Monitoring Office หรือ AIM Office) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ ติดตาม และประสานการดำเนินการต่างๆ ภายใต้ความร่วมมือด้านการเงินของอาเซียน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็น AEC ตามแผนที่กำหนดไว้
นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียนยังได้รับทราบถึงความคืบหน้าในความร่วมมือทางการเงินด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการประกันภัย ด้านศุลกากร ด้านการต่อต้านอาชญากรรมทางการเงินและการฟอกเงิน และด้านการสนับสนุนกลไกทางการเงินแก่โครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงความคืบหน้าในการพิจารณาการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน [ASEAN Infrastructure Fund (AIF)] โดยในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้สำนักงานกองทุน AIF ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
สำหรับความร่วมมือด้านภาษีนั้น ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานด้านภาษีของอาเซียน หรือ ASEAN Forum on Taxation(AFT) เพื่อเป็นเวทีหลักในการหารือประเด็นด้านภาษีที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวของภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีซ้ำซ้อน และสนับสนุนควมมร่วมมือด้านภาษีระหว่างประเทศสมาชิก
ส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียนและกลุ่มประเทศ+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี)นั้น ที่ประชุมฯ ได้รับทราบความคืบหน้าของการดำเนินการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี หรือ Chiang Mai Initiative Multilateralisation(CMIM)ซึ่งที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 ได้มีมติเห็นชอบให้นาย Wei Benhua ผู้แทนจากจีน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 ในปีแรก และนาย Yoichi Nemoto ผู้แทนจากญี่ปุ่น เป็นผู้อำนวยการฯ ในปีที่ 2 และ 3
อนึ่ง การประชุม AFMM ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ประเทศกัมพูชา ในช่วงต้นเดือนเม.ย.55