สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สัญญาซื้อขายในตลาดโลหะมีค่าทำสถิติทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วง 14.5 ดอลลาร์ หรือ 1% แตะที่ 1,453.6 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 54.6 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ระดับ 40.066 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง7.65 เซนต์ ปิดที่ 4.3835 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 18.5 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 18.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 770.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนพากันเทขายทำกำไรสัญญาทองคำที่พุ่งทำสถิติแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การร่วงลงของตลาดทองคำในวันนี้ออกมาในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดน้ำมันที่ล้วนปิดเคลื่อนไหวในแดนลบ
โดยในส่วนของราคาน้ำมันดิบนั้นปรับตัวลดลงท่ามกลางปัจจัยลบที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและสหรัฐ ซึ่งได้จุดกระแสความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันและความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก และยังระบุด้วยว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อช่วงที่ผ่านมากดดันให้อุปสงค์ในตลาดปรับตัวลดลง
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำนั้น นักลงทุนได้เริ่มเทขายสัญญาทองคำตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ และยังคงส่งคำสั่งขายออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักคาดว่า นักลงทุนจะยังมีความหวังต่อแนวโน้มการซื้อขายในตลาดโลหะมีค่าต่อไปในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดทองคำจะยังอยู่ในระดับสูงตราบใดที่สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้ออยู่ต่อไป ขณะเดียวกัน แรงซื้อเก็งกำไรจากนักลงทุนในเอเชียจะช่วยชดเชยปัจจัยลบในตลาดทองคำได้เป็นอย่างดีในอนาคต