ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากที่สหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนก.พ.ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่วิกฤตนิวเคลียร์ญี่ปุ่นรุนแรงขึ้น ส่วนเงินเฟ้อของอังกฤษเดือนก.พ.ชะลอตัว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 1.24% เมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 83.540 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 84.590 เยน และร่วงลง 1.06% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8968 ฟรังค์ จากระดับ 0.9064 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.4478 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4434 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 1.6259 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6346 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.57% แตะที่ 1.0437 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0497 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 0.7833 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7808 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เงินดอลลาร์เผชิญกับปัจจัยลบหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าสินค้าและบริการในเดือนก.พ.ลดลง 1.7% แตะที่ 2.109 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าร่วงลง 1.4% แตะ 1.651 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราค่อนข้างผันผวน หลังจากที่เมื่อวานนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยกระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกิชิม่า ไดอิจิ เป็นระดับที่ 7 จากเดิมที่ระดับ 5 โดยระดับ 7 ถือเป็นระดับสูงสุดและร้ายแรงที่สุดตามมาตรวัดสากล และเป็นระดับความรุนแรงเท่ากับหายนะที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลเมื่อปี 2529 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลต่อตลาด
ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย สู่ระดับ 4.0% ในเดือนมีนาคม จากระดับ 4.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวได้กดดันให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ