นายกรัฐมนตรี เผยเตรียมเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหายาเสพติด และปัญหาค่าแรง ในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย.)
โดยในส่วนของปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเหตุการณ์การสู้รบในลิเบีย ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเงินไว้ใช้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงเกินลิตรละ 30 บาทได้แค่สิ้นเดือน เม.ย.เท่านั้น ซึ่งคงต้องหามาตรการด้านนโยบายเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปยังต้นทุนค่าขนส่งและราคาสินค้า
"ขณะนี้ระดับเงินของกองทุนฯ ลดต่ำลงมาต่ำกว่า 1 หมื่นล้าน ลำพังกองทุนน้ำมันฯคงจะรับมือได้เพียงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ในวันพรุ่งนี้ผมจะได้นัดหมายพูดคุยกับทั้งรัฐมนตรีพลังงานและรัฐมนตรีคลัง" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสถานะของกองทุนน้ำมันฯ และฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ เพราะต้องคำนึงถึงประมาณการการขาดดุลต่างๆ ไม่ให้เสียวินัยทางการเงินการคลังไปพร้อมๆ กัน
"จะดูแลบนความเหมาะสม เพราะขณะที่ไม่ต้องการให้กระทบวินัยทางการเงินการคลัง เราก็มีหน้าที่ดูแลไม่ให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาสินค้าซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องต่อมาจะเชิญ รมว.แรงงาน และผู้เกี่ยวข้อง มาหารือถึงปัญหาค่าแรงเพื่อช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพให้กับประชาชน เนื่องจากการปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุน จึงจำเป็นต้องหาทางช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
"แนวทางที่ดีที่สุดในการที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนสู้กับปัญหาของแพงคือการเพิ่มรายได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะได้หารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงรุนแรงอยู่ในขณะนี้ แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเน้นการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างครบวงจรแล้วก็ตาม
"เรื่องนี้เป็นหนึ่งในสามเรื่องที่จะมีการพูดคุยกันเป็นการเร่งด่วน ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูว่าเราจะทำอะไรเพิ่มเติมได้อีกในการที่จะดูแลแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้การดำเนินการตามนโยบายในเรื่องนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายอภิสิทธิ กล่าว