ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนยืนยันเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไป

นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนยืนยันว่า จีนจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป แม้จีนได้ตัดสินใจปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งแล้วก็ตาม โดยนายโจวย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงินและเพื่อควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน

คำยืนยันของนายโจวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% เมื่อช่วงเย็นวานนี้ว่า โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และจะทำให้เพดานกันสำรองเงินฝากของสถาบันการเงินรายใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.5%

การประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากครั้งล่าสุดมีขึ้นในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25% เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นระดับสุงสุดในรอบ 32 เดือน และสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 4%