สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะอาจทำให้รัฐบาลกรีซต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐก็ตาม
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.38% แตะที่ 1.4230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4429 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.37% แตะที่ 1.6260 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6320 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.57% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.640 เยน จากระดับ 83.110 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8970 ฟรังค์ จากระดับ 0.8919 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.52% แตะที่ 1.0510 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0565 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1 % แตะที่ 0.7904 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7984 ดอลลาร์สหรัฐ
วิกฤตหนี้สาธาณะในหลายประเทศของยุโรป รวมถึงกรีซ ทำให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโร โดยผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ แม้กรีซได้ขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงอีก 3 ขั้นสู่ระดับ B1 จากระดับ Ba1 เนื่องจากความกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาพาณิชย์ 6 แห่งของกรีซด้วย
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แม้เอสแอนด์พีประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" และเตือนว่าปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอีก 2 ปีข้างหน้าก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางแมรี มิลเลอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากเอสแอนด์พีปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐว่า เอสแอนด์พีประเมินความสามารถของสหรัฐในเรื่องการแก้ปัญหาด้านการคลังต่ำเกินไป
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้าน ลดลงแตะระดับ 16 จุดในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 17 จุด
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค.