สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" พร้อมระบุว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากการขาดดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เอสแอนด์พีเริ่มดำเนินการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
ขณะเดียวกัน เอสแอนด์พีได้คงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐไว้ที่ AAA และคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นไว้ที่ A1+ พร้อมกับระบุว่า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA เท่ากันแล้ว สหรัฐเป็นประเทศที่มียอดขาดดุลงบประมาณสูงมาก ขณะที่สถานะหนี้สินของรัฐบาลก็สูงขึ้น และแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่ชัดเจน
"การที่เราให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐเป็นเชิงลบนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้อย่างน้อย 1 ใน 3 ที่เราจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐภายในระยะเวลา 2 ปี" นายนิโคลา สวอนน์ นักวิเคราะห์ด้านอันดับเครดิตของเอสแอนด์พีระบุในแถลงการณ์
นายสวอนน์กล่าวว่า ความแข็งแกร่งในด้านต่างๆในปัจจุบันของสหรัฐ รวมถึงรายได้ที่สูง, เศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น, ความสามารถในการหนุนเศรษฐกิจซึ่งดำเนินการควบคู่ไปกับการควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ, นโยบายการเงินที่น่าเชื่อถือ และข้อได้เปรียบที่ได้จากการที่สกุลเงินดอลลาร์อยู่ในสถานะที่โดดเด่นกว่าสกุลเงินอื่นๆในโลก "อาจจะไม่สามารถลดความเสี่ยงที่มีต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของสหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้าได้อย่างเต็มที่"
"เป็นเวลากว่า 2 ปีหลังจากที่เกิดวิกฤติการเงิน เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของสหรัฐยังคงไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการแก้ปัญหาภาวะถดถอยด้านการคลัง หรือแก้ปัญหาด้านการคลังในระยะยาวได้" นายสวอนน์กล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประเทศอื่นๆที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA เหมือนกับสหรัฐนั้น ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์