ผลสำรวจจาก WIN-Gallup International ที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า การสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลกปรับตัวลดลงจากระดับ 57% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ญี่ปุ่นมาอยู่ที่ระดับ 49% ในขณะนี้ แต่สัดส่วนของเสียงสนับสนุนยังมีจำนวนมากกว่าเสียงคัดค้าน
โดยในบรรดา 47 ประเทศและดินแดนที่ได้รับการสำรวจนั้น พบว่าเสียงสนับสนุนการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นร่วงลงหนักสุด จากระดับ 62% ก่อนแผ่นดินไหวมาอยู่ที่ระดับ 39% ในปัจจุบัน ขณะที่เสียงคัดค้านด้านพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากระดับ 28% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตนิวเคลียร์มาอยู่ที่ระดับ 47% หลังวิกฤตนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญจาก WIN-Gallup กล่าวว่า เสียงสนับสนุนของประชาชนด้านการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่แสดงความพอใจในสัดส่วน 57% ขณะที่เสียงคัดค้านตามหลังอยู่มากที่ 32%
ขณะเดียวกัน 11% ของประชาชนกว่า 34,000 คนที่ร่วมการสำรวจในครั้งนี้ไม่ขอออกความเห็น เมื่อถูกถามว่าความคิดเห็นเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ และอุบัติเหตุด้านนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผลสำรวจพบว่า มี 42 ประเทศจาก 47 ประเทศและดินแดนที่ลดการสนับสนุนด้านพลังงานนิวเคลียร์
โดยใน 8 ประเทศและดินแดนที่มีสัดส่วนการสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ร่วงลงหนักสุด ได้แก่ ญี่ปุ่น แคนาดา เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย ซาอุดิอาระเบีย ตูนิเซีย ฮ่องกง และแคเมอรูน ขณะที่สเปน อาเซอร์ไบจาน ฟิจิ แอฟริกาใต้ และโมร็อกโก เป็น 5 ประเทศที่มีอัตราการสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า กว่า 48% ของประเทศที่ร่วมการสำรวจเชื่อว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะดีดตัวมาอยู่ในระดับก่อนเกิดแผ่นดินไหวได้ในเร็วๆนี้ หรือฟื้นตัวได้แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยประเทศที่มีความเชื่อมั่นดังกล่าวมากเป็นพิเศษ ได้แก่ ฟินแลนด์ ลัตเวีย เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย สเปน ตุรกี และเวียดนาม