นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้เลี้ยงไก่ไข่เพื่อแก้ปัญหาไข่ไก่แพงในขณะนี้ ได้ขอความร่วมมือให้หยุดการส่งออกชั่วคราวจนกว่าผลผลิตที่ลดลงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และราคาเริ่มปรับตัวลดลง โดยคาดว่าสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ประมาณเดือน ต.ค.นี้ แต่กรณีที่ผู้ประกอบการทำสัญญากับลูกค้าต่างประเทศไว้ก่อนแล้วยังสามารถส่งออกได้ตามเดิม
"ผลผลิตไข่ไก่ที่ลดลงถึงวันละ 3 ล้านฟอง เพราะเกิดโรคระบาดในไก่ ประกอบกับฟาร์มเลี้ยงไก่ในภาคใต้เสียหายจากน้ำท่วม และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นมาก ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มก็สูงขึ้นจากเดือนมีนาคมถึงฟองละ 10-20 สตางค์ มาอยู่ที่ฟองละ 3.10-3.20 บาท และเมื่อคิดเป็นราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 จะตกที่ฟองละ 3.50-3.60 บาท แต่ผู้เลี้ยงมีกำไรแค่ 10% เท่านั้น" นางวัชรี กล่าว
พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดโครงการไข่ไก่ธงฟ้า โดยจะนำไข่ไก่เบอร์ 3 จากผู้ผลิตมาขายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศโดยตรงวันละ 1 ล้านฟอง ในราคาถูกกว่าท้องตลาดฟองละ 20-30 สตางค์ เป็นเวลา 3 เดือน คาดว่า ในต่างจังหวัดจะเริ่มได้วันพรุ่งนี้(20 เม.ย.) ส่วนในกรุงเทพฯ จะเริ่มได้ในอีกประมาณ 2 วัน ตามตลาดสดต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้น่าจะทำให้ราคาตลาดไข่ไก่ลดลงได้บ้าง
อย่างไรก็ดี กรมการค้าภายในได้ออกประกาศราคาแนะนำขายปลีกไข่ไก่แล้ว เพื่อให้ผู้ซื้อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ฟองละ 3.10-3.20 บาท เมื่อคัดแยกตามขนาดจะทำให้ราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 3.90-4.00 บาท, เบอร์ 1 ฟองละ 3.70-3.80 บาท, เบอร์ 2 ฟองละ 3.60-3.70 บาท, เบอร์ 3 ฟองละ 3.50-3.60 บาท, เบอร์ 4 ฟองละ 3.40-3.50 บาท และเบอร์ 5 ฟองละ 3.30-3.40 บาท
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า เตรียมนำสินค้าปลาป่นซึ่งเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าที่ต้องติดตามดูแลเป็นประจำทุกสัปดาห์ เนื่องจากเห็นว่าราคาในเดือน เม.ย.นี้ปรับตัวสูงขึ้นมาก