นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการภาษีอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอีกราว 5 เดือน จะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากคาดการณ์ประมาณ 0.7% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงประมาณ 0.3%
ผู้ว่าการ ธปท.มองว่า รัฐบาลมีเจตนาที่ดีที่จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตได้มีเวลาปรับตัว แต่รัฐบาลก็ควรส่งสัญญาณว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังสูงอยู่ และควรจะทำให้ราคาน้ำมันสะท้อนความจริงในที่สุด ซึ่ง ธปท.จะมีการติดตามปัญหาราคาน้ำมันสูงในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะลดลงในปี 55
ด้านนางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท.กล่าวว่า ผลจากมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันจะช่วยลดเงินเฟ้อในระยะสั้นเท่านั้นจนถึงเมื่อยกเลิกการอุดหนุน แต่ระยะยาวอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นมาก เพราะการอุดหนุนราคาเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด ทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ราคาไม่สะท้อนความเป็นจริง เมื่อใดที่มีการยกเลิกการอุดหนุนราคา และเศรษฐกิจเติบโตอย่างร้อนแรงก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก
ทั้งนี้ ธปท.จะนำปัจจัยดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้(20 เม.ย.) เพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งคงจะต้องมีการตั้งสมมติฐานราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตรต่อไป
นางอัจนา กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่าการใช้เงิน 4 หมื่นล้านบาทอุดหนุนราคาน้ำมันนั้น ควรจะนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมากกว่า