สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในระหว่างวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,495.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 95.70 เซนต์ ปิดที่ 43.913 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 11.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,771.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 731.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 75.078 จุด จากวันจันทร์ที่ระดับ 75.504 จุด
ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัท PFTBEST สัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน รวมถึงการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบีย โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อของจีนที่พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค.
ขณะที่นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป รวมถึงโปรตุเกสและไอร์แลนด์ และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของสหรัฐกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากสมาชิกรัฐสภายังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับงบประมาณในระยะกลางและระยะยาว