กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.ของญี่ปุ่นร่วงลง 2.2% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 5.866 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 16 เดือน เนื่องจากอุตสาหกรรมส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดการนำเข้าขยายตัว 11.9% แตะที่ 5.6695 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 และส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นทรุดฮวบลง 78.9% สู่ระดับ 1.965 แสนล้านเยนในเดือนมี.ค.
ส่วนยอดส่งออกในปีงบประมาณ 2553 ขยายตัว 14.9% ทำสถิติขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าปีงบประมาณ 2553 อยู่ที่ระดับ 5.3 ล้านล้านเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นนั้น ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อโรงงานและอุปกรณ์ของโรงงานเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายต่อถนน ท่าเรือ และสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ อีกทั้งส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมทั่วประเทศด้วย
นอกจากนี้มีรายงานว่า ความเชื่อมั่นในภาคเอกชนของญี่ปุ่นยังคงถดถอยลง เนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในครั้งนี้ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนพลังงานอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรงงานใหญ่ๆหลายแห่ง เช่นโตโยต้า มอเตอร์ ต้องระงับการผลิตชั่วคราว