นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง เป็นประธานเปิดการสัมมนาการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี ซึ่งเป็นการจัดสัมมนาร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสรรพสามิต ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ(ศจย.) และองค์การอนามัยโลก(WHO) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการควบคุมการบริโภคยาสูบในภาพรวม และให้รู้ถึงวิธีการควบคุมการบริโภคยาสูบที่มีประสิทธิภาพในต่างประเทศ ตลอดจนประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐในเชิงการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการภาษี
ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากปัญหาการบริโภคยาสูบที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สูบและผู้ใกล้ชิด โดยประเทศต่างๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการควบคุมการบริโภคยาสูบ ดังนั้นกรมสรรพสามิตได้แก้ปัญหาการควบคุมยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี ซึ่งสอดคล้องกับกรอบและทิศทางในการดำเนินการควบคุมยาสูบของประเทศตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ปี 53-57 ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างภาษียาสูบและการปรับปรุงระบบการบริหารการจัดเก็บภาษียาสูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมยาสูบ
พร้อมกันนี้ กรมสรรพสามิตมีแผนงานที่จะทบทวนโครงสร้างการจัดเก็บค่าแสตมป์ยาสูบ ตลอดจนบทบัญญัติในเรื่องต่างๆ ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาลักษณะการประกอบธุรกิจและผลิตภัณฑ์ยาสูบให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้กฎหมายในปัจจุบันไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารยาสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบและการจัดเก็บรายได้ของรัฐ
ดังนั้นกรมสรรพสามิต ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ(ศจย.) และองค์การอนามัยโลก(WHO) จึงได้ประสานความร่วมมือในการจัดสัมมนาการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการควบคุมการบริโภคยาสูบในภาพรวม และวิธีการควบคุมการบริโภคยาสูบที่มีประสิทธิภาพในต่างประเทศ และการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการภาษีสรรพสามิต และเป็นโอกาสดีสำหรับประเทศไทยที่จะได้รับความรู้จากต่างประเทศจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO Tobacco Free Initiative) จากการสัมมนาในครั้งนี้