นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก(สคฝ.) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้พบว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้แข่งขันกันนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากมากมายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ฝากเงินที่หลากหลาย ซึ่ง สคฝ.ขอชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากนั้น จะครอบคลุมเฉพาะส่วนที่เป็นเงินฝากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงินที่เป็นเงินบาท
แต่ทั้งนี้ มีเงินฝากที่ไม่ได้รับความคุ้มครองด้วย เช่น บัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน, เงินฝากที่มีอนุพันธ์แฝง และเงินฝากระหว่างสถาบันการเงินซึ่งไม่ได้อยู่ในความคุ้มครอง นอกจากนี้ สำหรับเงินลงทุนในกองทุนพันธบัตรต่างๆ, กองทุน RMF และ LTF, หุ้นกู้ธนาคาร, หุ้นกู้บริษัทเอกชน, ตั๋วบีอี, สลากออมทรัพย์ ก็ไม่ถือว่าเป็นเงินฝากจึงไม่ได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกัน
"ในอนาคตทางสถาบันฯ จะได้กำหนดให้มีการนำตราสัญลักษณ์ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากหรือแสดงข้อความเพื่อบอกกล่าวอย่างชัดเจนบนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพื่อสร้างความชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ใดได้รับความคุ้มครองจากสถาบัน" นายสิงหะ กล่าว
นายสิงหะ กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากผู้ฝากไว้สำหรับผู้ที่กำลังหาทางเลือกในการลงทุนต่างๆ คือความเสี่ยงกับผลตอบแทนนั้นมีความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกัน คือ การลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูงมักจะมีระดับความเสี่ยงที่สูง (High Risk-High Return) การลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่ามักจะมีระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า (Low Risk-Low Return) แต่สิ่งที่ต้องตระหนักอีกอย่างก็คือ ถึงแม้ว่าการลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูงมักจะมีระดับความเสี่ยงที่สูง แต่ไม่จำเป็นว่าการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงจะให้ผลตอบแทนที่สูงเสมอไป
ดังนั้นก่อนจะลงทุนใดๆ ต้องพิจารณาให้ดีและมีความรอบคอบในการเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดที่แท้จริงตามเป้าหมายที่วางไว้