จีนซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่ของสหรัฐได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" พร้อมกับเตือนว่าเอสแอนด์พีอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA ของสหรัฐ อันเนื่องมาจากความเสี่ยงหลายด้าน รวมถึงยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะของสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างมาก
นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนได้ทราบข่าวที่เอสแอนด์พีปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐแล้ว และคาดหวังว่าคณะบริหารของสหรัฐจะใช้มาตรการต่างๆด้วยความรับผิดชอบ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน
ความมั่นคงของสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลให้กับรัฐบาลจีนและนักเศรษฐศาสตร์ของจีนมาช้านาน เพราะเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของสหรัฐ มีหนี้สาธารณะอยู่ถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์
ในเดือนก.พ.ปีนี้ จีนยังคงเป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์รายใหญ่สุดของสหรัฐ หลังจากที่จีนได้ลดการถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกันก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบสอง (QE2) ซึ่งเป็นเหตุให้ต้ากง โกลบอล เครดิต เรทติ้ง บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีน ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ A+ จากระดับ AAA และให้แนวโน้ม "เชิงลบ"
นายกวง เจียนซง ประธานต้ากง โกลบอล กล่าวว่า เขาไม่แปลกใจที่เอสแอนด์พีประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐครั้งล่าสุดนี้ โดยกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐไม่แข็งแรง ประกอบกับสหรัฐมีการขาดดุลงบประมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่รายได้ด้านการคลังลดลง แต่นายกวงเชื่อว่า เจตนาของเอสแอนด์พีในครั้งนี้คือต้องการเตือนคณะบริหารของสหรัฐในเรื่องการขาดดุลบประมาณ มากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่การลดอันดับความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ นายกวงเตือนว่า การที่จีนยังถือครองสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐถือเป็นการลงทุนที่เสี่ยงอย่างมาก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันเอสแอนด์พียังคงอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA ของสหรัฐ แต่เตือนว่า มีความเป็นไปได้อย่างน้อย 1 ใน 3 ที่เอสแอนด์พีจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐภายในระยะเวลา 2 ปี หากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ