นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจำเป็นต้องลดเงินเฟ้อในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน
นายนาจิบกล่าวในการประชุมวิสามัญของกระทรวงการคลัง ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ราชการปูตราจายาว่า ประชาชนชาวมาเลเซียจะประสบกับความยากลำบากหากไม่ควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด
เมื่อวันพุธสำนักงานสถิติมาเลเซียประกาศว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ประจำเดือนมีนาคมขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 23 เดือนที่ 3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงเป็นตัวผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี การที่เงินริงกิตมาเลเซียแข็งค่าจะช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อจากการนำเข้า โดยในวันนี้เงินริงกิตเปิดตลาดแข็งค่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548 ที่ระดับ 3.0080/3.0088 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกันนายนาจิบกล่าวว่า เศรษฐกิจมาเลเซียต้องขยายตัวให้ได้อย่างน้อย 6% ทุกปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศ โดยมาเลเซียตั้งเป้าว่าจะต้องเป็นประเทศพัฒนาแล้วและมีรายได้สูงภายในปี 2563
ในปี 2553 เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัว 7.2% มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 6% สำนักข่าวซินหัวรายงาน