ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยภายหลังการหารือกับอธิบดีกรมสรรพสามิตในวันนี้ว่า ภาคเอกชนได้เสนอให้เลื่อนการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้มีการศึกษาอย่างรอบคอบ เพราะเกรงว่าอาจจะกระทบกับภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ ซึ่งทางกรมสรรพสามิตรับจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับนายกรัฐมนตรี
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ แต่จากการหารือร่วมกันของผู้ประกอบการภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของประเทศที่สะท้อนถึงแผนการผลิต แผนการทำงาน เนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้น หากมีการออกระเบียบ หรือกฎหมายแล้ว เกิดปัญหาในทางปฏิบัติจะทำให้แก้ไขได้ยาก ซึ่งในอดีตเคยมีบทเรียนมาแล้ว ที่ประชุมวันนี้จึงเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานประกอบด้วยผู้ประกอบการจากสภาอุตสาหกรรม ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องนี้ให้ชัดเจน โดยใช้เวลา 1 ปี
"เราเห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาล ของนายกฯ ของ ก.อุตสาหกรรม และ ก.คลัง ในการดูแลอุตสาหกรรมยายนต์ในการประหยัดพลังงานและผลต่อ Co2 และความปลอดภัย แต่การจะหาข้อสรุปคงยังไม่ได้ เพราะมีรายละเอียดทั้งเรื่องรุ่นของรถ รถเล็ก รถใหญ่ การลงทุนของรถยนต์แต่ละค่าย เทคโนโลยี ช่วงเวลาที่ลงทุนไปแล้ว การกำหนดตัวเลขต่างๆ " นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงว่าหากมีการกำหนดนโยบายในการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาการนำเข้ารถยนต์มาแทน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ และมีผลต่อเนื่องถึงอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่กำลังเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตาม ในพรุ่งนี้ ทาง ส.อ.ท.จะได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับผลการหารือในวันนี้รวมถึงข้อเสนอของภาคเอกชน ขณะที่กรมสรรพสามิตจะได้นำผลการหารือสรุปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเช่นกัน