สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) โดยดอลลาร์สหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำและยอดขาดดุลงบประมาณมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลสหรัฐยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินที่มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.22% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4550 ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4518 ยูโร และอ่อนตัวลง 0.69% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6515 ปอนด์ จากระดับ 1.6402 ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.72% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.870 เยน จากระดับ 82.460 เยน และอ่อนตัวลง 0.26% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8860 ฟรังค์ จากระดับ 0.8883 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.40% แตะที่ 1.0747 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0704 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.54% แตะที่ 0.8009 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7966 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพราะมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่าของสหรัฐทำให้อัตราผลตอบแทนของสกุลเงินดอลลาร์ไม่น่าดึงดูดใจ จึงได้หันไปถือครองสกุลเงินอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณมูลค่ามหาศาลของรัฐบาล และ ตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงข้อกำหนดที่ระดับ 1.43 ล้านล้านดอลลาร์ภายในช่วงกลางเดือนพ.ค.นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในปีงบประมาณ 2553 อยู่ที่ระดับ 1.29 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 1.65 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2554
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้ปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย.ปรับตัวลง 13,000 ราย แตะระดับ 403,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 392,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐ
ส่วนค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในอังกฤษขยายตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลง
*ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday)