เบี้ยประกันชีวิตรับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2554 ทั้งสิ้น 47,550.2 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันจากปีก่อนร้อยละ 12 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 13,083.9 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 34,466.2 ล้านบาท อัตราความคงอยู่ร้อยละ 89
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบี้ยประกันชีวิตรับ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีดังนี้ เบี้ยประกันชีวิตรับรวมเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2554 ประกอบด้วย เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 13,083.9 ล้านบาท รวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 34,466.2 ล้านบาท เป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งสิ้น 47,550.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 4,994.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12
บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 13,884.7 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 29.2 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 5,961.6 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12.5 อันดับที่ 3 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 5,113.1 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 10.8 อันดับที่ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 5,108.6 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 10.7 และ อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 4,151.6 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ8.7
เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2554 ประกอบด้วยเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก 9,252.3 ล้านบาท รวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว 3,831.6 ล้านบาท เป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ทั้งสิ้น 13,083.9 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 506.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ-3.7
บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานระหว่างเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2554 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 3,000.8 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 22.9 อันดับที่ 2 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 1,707.0 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 13.0 อันดับที่ 3 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 1,566.0 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12.0 อันดับที่ 4 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 1,364.4 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 10.4 และ อันดับที่ 5 บจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 1,004.6 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 7.7
สมาคมได้ประมาณการว่า ธุรกิจประกันชีวิต ยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2554 ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราเพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 15 หรือเบี้ยประกันชีวิตรวม จะไม่ต่ำกว่า 340,000 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยบวกที่ บริษัทประกันชีวิตยังคงมีการแข่งขันกันพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบต่างๆ ออกมา โดยฉพาะการพัฒนารูปแบบของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลแบบต่างๆ เพื่อสนองความต้องการของประชาชน และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอย่างแพร่หลายสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมด้านภาษี โดยการเพิ่มค่าลดหย่อนเบี้ยประกันภัย จากการประกันชีวิตแบบบำนาญอีก 200,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท จึงจะมีการประกันชีวิตแบบบำนาญต่างๆ ออกมาขายในตลาดมากขึ้น และที่สำคัญคือจะมีการแข่งขันกันพัฒนาด้านการขายผ่านช่องทางธนาคาร และตัวแทนกันมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองช่องทางนี้จะช่วยผลักดันให้เบี้ยประกันชีวิตเพิ่มในอัตราที่สูงขึ้น