นายถัง ซวงหนิง ประธานบริษัทไชน่า เอเวอร์ไบรท์ กรุ๊ป กล่าวว่า รัฐบาลจีนควรลดเงินส่วนเกินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และควรกระจายการถือครองสกุลเงินต่างประเทศต่อไป
นายถังกล่าวในที่ประชุมที่กรุงปักกิ่งว่า จำนวนเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนควรลดลงสู่ระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ 3.04 ล้านล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าตัวเลขในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงเกินไป
นอกจากนี้ นายถังยังได้แนะนำให้จีนกระจายการถือครองเงินตราต่างประเทศ โดยเขาได้แนะนำ 5 ช่องทางสำหรับการใช้เงินในทุนสำรอง ซึ่งรวมถึงการขยายการลงทุนในต่างประเทศ, การออกพันธบัตรต่างประเทศ และการปรับปรุงสวัสดิการทั่วประเทศ เช่น การศึกษาและสุขภาพ
-- คณะกรรมการกำกับกฎระเบียบธนาคารของจีน (CBRC) เปิดเผยว่า การที่ทางคณะกรรมการได้สั่งให้มีการทดสอบภาวะวิกฤติรอบใหม่สำหรับเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น ไม่ได้บ่งชี้ถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมระดับมหภาค
การทดสอบภาวะวิกฤติมีเป้าหมายที่จะประเมินและวิเคราะห์ผลกระทบของคุณภาพสินทรัพย์, ศักยภาพด้านการทำกำไร และฐานเงินทุนของธนาคารพาณิชย์
-- กระทรวงทรัพยากรบุคคลและประกันสังคมของจีนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเขตเมืองของจีน ณ สิ้นเดือนมี.ค.อยู่ที่ 4.1% โดยมีประชาชนลงทะเบียนว่างงานทั้งสิ้น 9.09 ล้านคน
นายยิน เชิงจี โฆษกกระทรวงทรัพยากรบุคคลและประกันสังคมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเลขจ้างงานของจีนในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 3.03 ล้านคน นอกจากนี้ นายยินยังกล่าวว่า อัตราว่างงานในไตรมาสแรกยังคงทรงตัวจากระดับ ณ ปลายปีที่แล้ว
-- นายฉวน เจ๋อจู เลขาธิการสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์ของจีนได้เรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) เนื่องจากต้นทุนด้านการผลิตปรับตัวสูงขึ้น โดยระบุว่าการปรับโครงสร้างด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและการจัดตั้งหน่วยงานด้านบริการจะช่วยให้ธุรกิจ SME มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน