นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จากเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ขณะนี้ยังไม่มีการปิดด่านชายแดนที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ และด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ แต่ยอมรับว่าช่วง 4-5 วันที่มีการปะทะกัน ไทยสูญเสียมูลค่าการค้าไปแล้วประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ด่านนี้ คิดเป็นมูลค่าการค้าประมาณ 5% ของมูลค่าการค้าชายแดนรวมทั้งหมด
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า แม้ทางการจะไม่ได้สั่งปิดด่าน แต่ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเกี่ยวกับการดูแลคนผ่านเข้า-ออก ซึ่งทำให้การค้าชายแดนหยุดชะงักไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดี ด่านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาที่เหลืออีก 3 แห่ง คือ ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านคลองใหญ่ จ.ตราด และด่านบ้านแหลม และด่านบ้านผักกาด จ.จันทบุรี ที่ยังเปิดตามปกติ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลจะยังไม่เปลี่ยนนโยบายการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์อันดีทางการค้าในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยทำให้บรรยากาศระหว่าง 2 ประเทศไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ไทยจะอาศัยเวทีการประชุมผู้นำอาเซียนในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ เพื่อเจรจารักษาระดับความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาไว้ต่อไป
"เรายังยืนยันท่าที การแยกสนามรบกับสนามการค้า เพราะที่สำคัญที่สุด ต้องคำนึงถึงปากท้องประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย" รมช.อลงกรณ์ ระบุ