นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุดในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง และจะเดินหน้าโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนจบโครงการในเดือนมิ.ย.ปีนี้
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเบอร์นันเก้ ประธานเฟด ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุมวันที่ 27 เม.ย. นี้ โดยมีความเป็นไปได้ว่าเบอร์นันเก้จะเปิดเผยถึงมาตรการในอนาคตที่พุ่งเป้ายับยั้งการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเบอร์นันเก้จะใช้การแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อย้ำถึงการคาดการณ์ของเฟดที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและอาหารจะทำให้ราคาผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเพียงปานกลางและในระยะสั้นเท่านั้น และจะย้ำว่าเฟดมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นหากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลงเล็กน้อยในปีนี้ พร้อมกับจะปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขเงินเฟ้อและแนวโน้มการจ้างงาน
แถลงการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้นี้จะทำให้เบอร์นันเก้มีโอกาสสื่อสารกับประชาชนและตลาดการเงินได้ดียิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่า เฟดตั้งใจจะใช้วิธีการใดในการกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การแถลงข่าวในครั้งนี้จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของเฟดมีความชัดเจนมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า เบอร์นันเก้วางแผนที่จะจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไตรมาสละครั้ง เพื่อเปิดเผยการคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งล่าสุดของเฟด