FED คงดอกเบี้ย 0-0.25% ย้ำเดินหน้า QE2 จนถึงกลางปีนี้ ชี้ศก.ฟื้นตัวปานกลาง

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 28, 2011 05:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า " ข้อมูลที่เฟดได้รับมานับตั้งแต่การประชุมในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง และสภาพโดยรวมของตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และการลงทุนทางธุรกิจในด้านอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ยังคงมีการขยายตัว"

ส่วนปัจจัยเงินเฟ้อที่ตลาดจับตาดูมากเป็นพิเศษนั้น เฟดระบุว่า "ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว และความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีกนับตั้งแต่การประชุมเฟดในเดือนมี.ค.และทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อได้ดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ และอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จึงที่ทำให้คณะกรรมการเฟดตัดสินใจว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง"

นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 ตามแผนการที่วางไว้ โดยเฟดจะทบทวนจังหวะเวลาในการเข้าซื้อพันธบัตรและขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรเป็นระยะๆ โดยจะพิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้รับ และอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะหนุนตัวเลขการจ้างงานให้สูงขึ้นและทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติให้ใช้มาตรการ QE2 ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ปี 2553 โดยจะทยอยซื้อพันธบัตรในสัดส่วน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปจนถึงกลางปี 2554 โดยเฟดย้ำว่ามาตรการ QE2 จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและลดภาวะตึงตัวในระบบการเงินได้ และหากเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะสภาพคล่องส่วนเกินในวันข้างหน้า เฟดก็มีเครื่องมือที่จำเป็นที่พร้อมจะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบในเวลาที่เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ