นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ศูนย์ราชการปูตราจายาว่า สกุลเงินริงกิตมาเลเซียที่แข็งค่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามาเลเซียมีรากฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง
ในปี 2553 สกุลเงินริงกิตแข็งค่าเกือบ 12% และแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาจนปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีหลายวันติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 2.9647/9667 ริงกิต/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี
บรรดานักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าเงินริงกิตจะแข็งค่าต่อไปหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนถึงขั้นคาดการณ์ว่าเงินริงกิตจะแข็งค่าแตะระดับ 2.80 ริงกิต/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
นายนาจิบกระตุ้นให้บริษัทเอกชนในประเทศใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่และปรับปรุงซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวมาเลเซียก็กล่าวว่า เงินริงกิตที่มีมูลค่ามากขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน