ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ เหตุวิตกเฟดตรึงดอกเบี้ยต่ำ

ข่าวต่างประเทศ Saturday April 30, 2011 07:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอีก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4813 ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4822 ยูโร และร่วงลง 0.46% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6703 ปอนด์ จากระดับ 1.6627 ปอนด์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.120 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 81.500 เยน และดิ่งลง 0.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8651 ฟรังค์ จากระดับ 0.8732 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.38% แตะที่ 1.0966 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0925 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.85% แตะที่ 0.8091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8023 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่คณะกรรมการเฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% และยืนยันว่าจะตรึงดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าเศรษฐกิจจะสามารถต้านทานวิกฤตการณ์การเงินได้ ซึ่งคำยืนยันของเฟดทำให้นักลงทุนคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์จะร่วงลงอีกในอนาคต ดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นเมื่อเฟดตัดสินใจเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ ภายใต้มาตรการ QE2 ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 ตามแผนการที่วางไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า QE2 จะทำให้สภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ในระบบสูงขึ้น และทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์อ่อนแอลงด้วย

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวเพียง 1.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ดีถึง 3.1%

ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นนับตั้งแต่ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยยูโรแข็งค่าขึ้นกว่า 4% นับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.และแข็งค่าขึ้น 9.5% นับตั้งแต่ต้นปี 2554 แม้หลายประเทศในยุโรปยังคงเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ