World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 4, 2011 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตแร่อลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าบริษัทริโอทินโตจะยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการอัลโค อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการบริษัทเอกชน รวมถึงผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.15 จุด หรือ 0.00% แตะที่ 12,807.51 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.60 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,356.62 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 22.46 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 2,841.62 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินเดียทำให้นักลงทุนกังวลว่า การใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 111.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาโลหะเงิน หลังจากบริษัทซีเอ็มซี กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาด NYMEX ปรับเพิ่มข้อกำหนดการเรียกเก็บเงินประกันขั้นต้น (initial margin) สำหรับสัญญาโลหะเงินล่วงหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 16.70 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,540.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,516.20 - 1,551.40 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 3.499 ดอลลาร์ หรือ 10.1% ปิดที่ 42.585 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551

--สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในยูโรโซน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.3% แตะที่ 1.4828 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ 1.4824 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.98% แตะที่ 1.6486 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6649 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.27% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.000 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 81.220 เยน และอ่อนตัวลง 0.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8610 ฟรังค์ จากระดับ 0.8647 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.76% แตะที่ 1.0857 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ 1.0940 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.76% แตะที่ 0.7995 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8056 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี และธนาคารบาร์เคลย์ส

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 12.98 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 6,082.88 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ