สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในยูโรโซน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐ
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.3% แตะที่ 1.4828 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ 1.4824 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.98% แตะที่ 1.6486 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6649 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.27% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.000 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 81.220 เยน และอ่อนตัวลง 0.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8610 ฟรังค์ จากระดับ 0.8647 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.76% แตะที่ 1.0857 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ 1.0940 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.76% แตะที่ 0.7995 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8056 ดอลลาร์สหรัฐ
กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้หลังจากที่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% ในการประชุมครั้งที่แล้วนั้น เป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น โดยคณะกรรมการอีซีบได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อและส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหลังจากมีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นรุนแรงในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.8% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรปกำหนดไว้ที่ 2%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในกลุ่มผู้บริหารธุรกิจและผู้บริโภคในยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ 106.2 จุดในเดือนเม.ย. จากระดับ 107.3 จุดในเดือนมี.ค.
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 3% ในเดือนมี.ค. แตะระดับ 4.629 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ
นักลงทุนยังคงจับตาดูว่าการที่สหรัฐตัดสินใจปลิดชีพนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล กออิดะห์ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่ออนาคตของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนมองว่า สกุลเงินดอลลาร์ เงินเยน และฟรังค์สวิส เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในยามที่สถานการณ์การเมืองทั่วโลกยังคงไม่แน่นอน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วสหรัฐเดือนเม.ย., ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนเม.ย.