ผลสำรวจซึ่งเผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุตัวเลขคาดการณ์ว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 7.3% ในปี 2554 แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงและการหลั่งไหลของเงินทุนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกจะยังคงขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2554" ผลสำรวจระบุพร้อมทั้งเสริมว่า ภูมิภาคนี้รอดพ้นจากวิกฤตการเงินโลก ในขณะเดียวกันก็เป็นแกนนำการขับเคลื่อนและสร้างเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคการคลังและการส่งออก ช่วยให้เศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกทะยานขึ้น 8.8% และนำพาให้ภูมิภาคนี้รอดพ้นจากภาวะถดถอยด้วยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในรูปตัว V
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคประจำปี 2554 ถูกมองว่ามีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูง การฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและอุปสงค์ในประเทศพัฒนาแล้วที่ซบเซา เงินทุนไหลเข้าที่ผันผวนและผลกระทบจากภัยพิบัติในญี่ปุ่นเมื่อช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ESCAP คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าและอาหารที่แพงขึ้นอาจทำให้ประชากรที่มีฐานะยากจนในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอีก 42 ล้านคนภายในปีนี้ ซึ่งทำให้การบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในประเด็นความยากจนต้องล่าช้าออกไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน