รัฐบาลกรีซออกโรงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดกรณีที่นิตยสาร "แดร์ สปีเกิล" ของเยอรมนี รายงานว่า กรีซกำลังพิจารณาที่จะเลิกใช้สกุลเงินยูโรในเร็วๆนี้
กระทรวงการคลังกรีซออกแถลงแถลงการณ์ระบุว่า "นอกจากไม่ถูกต้องแล้ว ข่าวนี้ยังเขียนขึ้นโดยขาดความรับผิดชอบ ถึงแม้รัฐบาลกรีซ และรัฐบาลประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ได้ปฏิเสธเหตุการณ์สมมุติดังกล่าวซ้ำหลายครั้งก็ตาม"
"รายงานดังกล่าวยั่วยุ บั่นทอนความพยายามของกรีซ ทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนลง และเป็นกลวิธีเพื่อการเก็งกำไร" แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สื่อทั่วโลกพากันอ้างรายงานข่าวโดยนิตยสาร แดร์ สปีเกิล ของเยอรมนี ที่ระบุว่า กรีซจะกลับไปใช้สกุลเงินดราชมา (drachma) และอาจปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความปั่นปวนในตลาดการเงินทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา และส่งผลให้เงินยูโรร่วงลง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรป อาทิ นายอมาเดอู อัลตาฟาจ โฆษกของนายโอลลี เรห์น คณะกรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงินของอียู รวมถึงรัฐบาลเยอรมนี ได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อกรณีที่มีการสร้างสถานการณ์สมมุติว่ารัฐมนตรีคลังยุโรปได้จัดการประชุมฉุกเฉินในลักเซมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ เพื่อพิจารณาแผนการถอดถอนกรีซจากยูโรโซน
นอกจากนี้ นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบอร์กและประธานกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมแบบปิดร่วมกับรมว.คลังจากเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปนว่า "เราไม่ได้หารือกันถึงการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ" พร้อมกับระบุว่า ข่าวลือที่ว่ากรีซจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ก้อนใหญ่นั้นเป็นเรื่องไร้สาระ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และนายโอลลี เรห์น ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ กรีซ ซึ่งประสบภาวะหนี้สินสูง สามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้อย่างหวุดหวิดเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ด้วยการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามใช้มาตรการต่างๆในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ แต่ความท้าทายก็ยังคงมีอยู่ และนักวิเคราะห์ต่างชาติบางส่วนก็ยังคงสนับสนุนสมมติฐานที่ว่ากรีซอาจปรับโครงสร้างหนี้หรือทางเลือกอื่นๆ