ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งรับข่าวกรีซอาจได้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 11, 2011 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กรีซอาจได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มอีก 6 หมื่นล้านยูโรภายในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อกอบกู้วิกฤตด้านการคลังและแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ

ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.29% แตะที่ 1.4404 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4362 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.25% แตะที่ 1.6354 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6395 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.770 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 80.250 เยน และดีดตัวขึ้น 0.96% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8801 ฟรังค์ จากระดับ 0.8717 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้น 0.32% แตะที่ 1.0831 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0796 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.05% แตะที่ 0.7946 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7950 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า กรีซอาจได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินอีก 6 หมื่นล้านยูโรภายในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะและสถานการณ์ด้านการคลัง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สกุลเงินยูโรถูกเทขายอย่างหนักภายหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ

ทั้งนี้ เอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ B จากระดับ BB- เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ว่ากรีซอาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติม หรืออาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงอีก อันเนื่องมาจากความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น ซึ่งหากมีการลดอันดับความน่าเชื่อถืออีก ก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือของกรีซอยู่ในระดับต่ำสุดในกลุ่มประเทศยุโรป

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังกรีซได้แสดงความไม่พอใจที่เอสแอนด์พีลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่ปราศจากเหตุผล พร้อมกับกล่าวว่า การตัดสินใจของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง หรือบนพื้นฐานการประเมินสภาวะทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่บนพื้นฐานของข่าวลือหรือรายงานของสื่อ

ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลงเกือบ 0.3% เมื่อคืนนี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.1% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1% ส่วนยอดขายส่งพุ่งขึ้น 2.9% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4%

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ