กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศซึ่งถือครองโดยรัฐบาลญี่ปุ่น ขยายตัว 1.7% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.13555 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากมูลค่าสกุลเงินยูโรที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง
รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ใช้เงินมูลค่า 6.925 แสนล้านเยนในการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแทรกแซงตลาดตามมติของกลุ่มประเทศ G7
ทั้งนี้ การที่ญี่ปุ่นใช้เงินแทรกแซงตลาดมูลค่า 6.925 แสนล้านเยนนั้น อาจจะเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดในบรรดาชาติสมาชิก G7 แต่ก็ยังน้อยกว่าจำนวน 2.12 ล้านล้านเยนที่ญี่ปุ่นใช้ในการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ปีที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นประกอบไปด้วยหลักทรัพย์และเงินฝากในรูปสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งเงินสำรองสำหรับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), สกุลเงิน SDR และทองคำ