นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ธนาคารกรุงไทย(KTB)และธนาครออมสินเป็นผู้รับภาระรับโอนหนี้บัตรเครดิตจากสถาบันการเงิน ซึ่งรัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้บัตรเครดิตที่มีภาระสูงแต่เป็นลูกหนี้ที่ดี โดยเตรียมวงเงินรองรับไว้พร้อมเพื่อรับโอนหนี้บัตรเครดิตมาเปลี่ยนสถานะเป็นหนี้ส่วนบุคคลที่มีเงื่อนไขการชำระหนี้ที่ระยะยาวขึ้นและอัตราดอกเบี้ยต่ำลงจากเดิม ซึ่งในช่วงปลายเดือน พ.ค.-ต้น มิ.ย.ทั้งสองธนาคารจะประกาศวันรับขึ้นทะเบียนลูกหนี้
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องการจากมาตรการดังกล่าว คือ ต้องการกระตุ้นให้สถาบันการเงินที่อออกบัตรเครดิตพิจารณาสถานะลูกหนี้ในกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นลูกหนี้ที่ดี แต่กลับคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง จึงควรพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย เพื่อที่จะไม่ให้ต้องสูญเสียลูกค้ากลุ่มนี้ให้แก่ธนาคารรัฐ และรักษาสถานภาพของลูกหนี้กลุ่มนี้ต่อไป
ปัจจุบัน หนี้บัตรเครดิตในระบบ 1.9 แสนล้านบาท เป็นหนี้ดี 1.7 แสนล้านบาท ส่วนหนี้เป็นหนี้ที่ยังชำระหนี้ไม่ครบตามจำนวน 30-35% และเป็นสินเชื่อที่มีภาระดอกเบี้ย 5 หมื่นล้านบาท
"มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการแข่งขันของธนาคารผู้ออกบัตรที่จะเสนอเงื่อนไขที่ดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราต้องการเห็นคืออัตราดอกเบี้ยที่ลดลง แต่หากธนาคารผู้ออกบัตรเลือกที่จะไม่รักษาลูกค้า ก็มีสิทธิโดนหนี้ส่วนนี้โอนมาที่ธนาคารออมสินและกรุงไทยแทน"นายกรณ์ กล่าว
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า เบื้องต้นธนาคารออมสินและ KTB จะรับโอนหนี้บัตรเครดิตที่มีวงเงินเฉลี่ย 1-2 แสนบาท/ราย และจะคิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 10% ต่อปี หรือ MLR+3-5% ขึ้นกับธนาครแต่ละแห่ง คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ภายในเดือน มิ.ย.54