นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศที่พัฒนาแล้วได้ใช้มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน โดยอาจจัดเก็บภาษีนำเข้าพิเศษสำหรับสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนทำให้ต้นทุนผู้ส่งออกโดยเฉพาะจากประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มสูงขึ้น และกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอาจกลายเป็นการกีดกันทางการค้าได้ ดังนั้นผู้ประกอบการส่งออกสินค้าของไทยเกือบทุกกลุ่มจำเป็นจะต้องเร่งปรับตัว โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร, เสื้อผ้า และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น สหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ได้ออกมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มาใช้เป็นเงื่อนไขทางการค้า โดยเฉพาะมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งกรมฯ ได้ศึกษาวิเคราะห์และกำหนดนโยบายรับมือกับมาตรการต่างๆ เหล่านี้ รวมทั้งได้ผลักดันให้ภาครัฐและเอกชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการค้า และกฎเกณฑ์ทางการค้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะล้วนแต่มีผลกระทบกับไทยแทบทั้งสิ้น
"การแก้ปัญหาโลกร้อนเริ่มจะเกี่ยวโยงกับการค้า และเริ่มสลับซับซ้อนมากขึ้น เป็นทั้งความท้าทายและโอกาส หากผู้ประกอบการไทยเตรียมความพร้อมและปรับตัวได้ จะทำให้ธุรกิจของไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันเหนือประเทศคู่แข่ง ซึ่งกรมฯ จะติดตามมาตรการต่างๆ และแจ้งให้ผู้ประกอบการไทยทราบอย่างต่อเนื่อง" นางศรีรัตน์ กล่าว