ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกหนี้ยุโรป ฉุดยูโรร่วงหนักเทียบดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 12, 2011 07:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ระลอกใหม่ในยูโรโซน หลังจากมีรายงานว่าชาวกรีซจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรีซ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจล่าช้าออกไป

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 1.41% แตะที่ 1.4203 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4406 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.10% แตะที่ 1.6346 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6362 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.970 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 80.820 ดอลลาร์สหรัฐ และพุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8867 ฟรังค์ จากระดับ 0.8796 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.36% แตะที่ 1.0688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0835 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.81% แตะที่ 0.7884 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7948 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ หลังจากเกิดเหตุการประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดในกรีซ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายตรวจสอบของอียูและไอเอ็มเอฟได้เดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ของกรีซเมื่อวานนี้ เพื่อกดดันให้รัฐบาลกรีซเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจมากขึ้น แต่มีประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงบนถนนหลายสาย เพื่อต่อต้านรัฐบาลไม่ให้ประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า แผนกู้วิกฤตหนี้ของกรีซอาจจะไม่เป็นไปตามแผน หรืออาจล่าช้ากว่ากำหนด

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. โดยร่วงลงครึ่งหนึ่งจากระดับ 8.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากรายรับจากการเก็บภาษีเงินได้ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 4.54 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนค่าเงินปอนด์นั้นแม้อ่อนตัวลง แต่ได้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางอังกฤษปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อระยะกลาง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ