World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2554

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 12, 2011 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ค. พุ่งขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 370.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าและการบริการเดือนมี.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.7% หรือเพิ่มขึ้น 7.7 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.727 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและความต้องการสินค้าจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ปรับตัวสูงขึ้น

-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงถึงครึ่งหนึ่งของระดับ 8.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของรายรับที่ได้จากการเก็บภาษีเงินได้

-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 เป็น 88.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 1% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 395.65 ล้านล้านเยน ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินหมุนเวียนที่สำคัญของญี่ปุ่น ขยายตัว 2.7%

-- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นลดลง 34.3% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 1.6791 ล้านล้านเยน

-- สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในออสเตรเลียเดือนเม.ย.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.9% แต่การจ้างงานแบบเต็มเวลาร่วงลง 49,100 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2552

-- เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงถึง 2 ครั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปนเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย ขณะที่รัฐบาลได้ส่งกองทัพลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.0% ในปีนี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนพลังงาน, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

-- ยูคิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวขอโทษต่อกรณีที่เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิลงสู่ทะเลอีกครั้ง โดยชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

-- สำนักงานอาหารและยา (FDA) ของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ปริมาณการนำเข้าอาหารจากญี่ปุ่นของเกาหลีใต้ได้ลดลงอย่างมากในเดือนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสารกัมมันตรังสีอาจส่งผลให้อุปสงค์ลดลง ท่ามกลางวิกฤตินิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 6.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 3 ครั้ง เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลง พร้อมระบุว่าธนาคารกลางได้ใช้วิธีการปล่อยให้เงินรูเปียห์แข็งค่าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการนำเข้า

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมตัดสินใจเกี่ยวกับแผนให้ความช่วยเหลือบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) ในการชดเชยค่าเสียหายจำนวนมหาศาลจากวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ซึ่งรวมถึงการตั้งหน่วยงานใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการจ่ายเงินชดเชย และจับตาดูการปรับปรุงการทำงานของเทปโก

-- ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในกลุ่มพนักงานที่มีลักษณะงานอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น (Economy Watchers) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนเมษายน หลังจากที่ร่วงลงหนักสุดในเดือนมีนาคมอันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม

-- ผลการสำรวจล่าสุดของเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม พบว่า การลงทุนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.43 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2553 ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า

-- บริษัทวิจัย โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นเดือนเมษายนปรับตัวลดลง 6.7% จากปีก่อนหน้านี้ เหลือ 1,076 แห่ง ซึ่งทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน เนื่องจากความช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาลช่วยหนุนให้หลายธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ