ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรดีดตัวจากกระแสคาดธนาคารกลางยุโรปขึ้นดอกเบี้ย

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซ และหันไปให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของอีซีบี ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และดอลลาร์แคนาดา ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.36% แตะที่ 1.4246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4195 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.35% แตะที่ 1.6293 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6350 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 0.9619 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 0.9612 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนตัวลง 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.930 เยน จากระดับ 81.060 เยน

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.16% แตะที่ 1.0673 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0690 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.96% แตะที่ 0.7961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7885 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเริ่มกลับมาถือครองสกุลเงินยูโร หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเดือนเม.ย.พุ่งแตะ 2.8% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรปกำหนดไว้ที่ 2%

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันนั้น สกุลเงินยูโรถูกกดดันจากข้อมูลของยูโรสแตทที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยูโรโซน หดตัวลง 0.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนมี.ค. ขยายตัวขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และดอลลาร์แคนาดา ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 44,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 434,000 ราย

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึง เบน ดินท์ นักวิเคราะห์จากแมคควอรี กรุ๊ป คาดว่า อัตราการจ้างงานที่ชะลอตัวลงในออสเตรเลียอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียต้องเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป แต่นักวิเคราะห์ยังคงเชื่อว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนส.ค.ค่อนข้างแน่นอน

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานเมื่อวานนี้ ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ของออสเตรเลียร่วงลง 22,100 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11,436,500 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวอยู่ที่ 4.9% ซึ่งตัวเลขจ้างงานร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายของตลาด หลังจากมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 15,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.