ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าหลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อขยายตัวต่อเนื่อง

ข่าวต่างประเทศ Saturday May 14, 2011 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนเม.ย. ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 1.02% แตะที่ 1.4096 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4241 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลง 0.66% แตะที่ 1.6181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6288 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8931 ฟรังค์ จากระดับ 0.8836 ฟรังค์ และดีดตัวขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 0.9686 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 0.9622 ดอลลาร์แคนาดา

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.05% แตะที่ 1.0562 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0674 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.14% แตะที่ 0.7862 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7953 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนเม.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% และยังเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน

ดัชนีซีพีไอและพีพีไอที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารและเชื้อเพลิง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงิน รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ตามกำหนดในเดือนมิ.ย.นี้

ขณะที่ค่าเงินยูโรถูกกดดันอย่างหนักหลังจากเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของธนาคารกลางยุโรประบุว่า การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซอาจสร้างความเสี่ยงให้กับประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน และไม่ได้ช่วยแก้ไขให้วิกฤตการคลังให้กับกรีซได้ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยลบหลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนยังไม่อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรขยายตัว 0.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) ขยายตัว 0.8% ในไตรมาสแรกเช่นกัน

คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในยูโรโซน จะขยายตัว 1.6% ในปีนี้ โดยระบุเศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ