จิม โอนีล ประธานบริษัทโกลด์แมน แซคส์ แอสเซท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า การปรับฐานลงอย่างหนักของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความไม่แน่นอน นอกเหนือไปจากการใช้มาตรการควบคุมเศรษฐกิจของจีน และภาวะชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงมากกว่า 5% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ค. พุ่งขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 370.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในด้านต่างๆ รวมถึงการใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง
ส่วนเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น 68 เซนต์ แต่ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
โอนีลคาดว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกจะปรับฐานลงอีก เนื่องจากเศรษฐกิจของหลายประเทศชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ชะลอตัวลง 1.4% จากเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของจีนพุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำกว่า 4% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า จีนจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินเพิ่มเติม เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอีก สำนักข่าวซินหัวรายงาน