World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday May 16, 2011 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 100.17 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 12,595.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 10.88 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,337.77 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 34.57 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 2,828.47 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า การขยายตัวของตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนเม.ย.ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 13.20 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,493.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 21.6 เซนต์ ปิดที่ 35.013 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 เซนต์ ปิดที่ 3.9835 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,769.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ดิ่งลง 10.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 706.45 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในแม่น้ำมิสซิสซิปปี อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลติดต่อกันเป็นวันที่สาม ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 68 เซนต์ หรือ 0.69% แตะที่ 99.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 85 เซนต์ แตะที่ 113.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนเม.ย. ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 1.02% แตะที่ 1.4096 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4241 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลง 0.66% แตะที่ 1.6181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6288 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8931 ฟรังค์ จากระดับ 0.8836 ฟรังค์ และดีดตัวขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 0.9686 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 0.9622 ดอลลาร์แคนาดา

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.05% แตะที่ 1.0562 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0674 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.14% แตะที่ 0.7862 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7953 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษที่ขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 19.09 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 5925.87 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ