ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) แต่ยูโรเคลื่อนตัวผันผวนและยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมทั้งความกังวลเรื่องการปรับโคงสร้างหนี้ของกรีซ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.57% แตะที่ 1.4234 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4154 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.37% แตะที่ 1.6250 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6190 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.71% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.340 เยน จากระดับ 80.770 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8803 ฟรังค์ จากระดับ 0.8841 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.60% แตะที่ 1.0624 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0561 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% แตะที่ 0.7839 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7801 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายฌอง-คล้อด จุงเกอร์ ประธานกลุ่มยุโรป ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซน กล่าวว่า กรีซอาจปรับโครงสร้างหนี้ไม่มากนัก หากรัฐบาลยอมปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่และเร่งแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรยังคงถูกกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆของยูโรโซน
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ของสหรัฐปรับตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.6% สู่ระดับ 523,000 ยูนิตต่อปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 568,000 ยูนิตต่อปี
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนเม.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.