สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของญี่ปุ่นหดตัวลง 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหดตัวลง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันสองไตรมาส
จีดีพีไตรมาสแรกของญี่ปุ่นหดตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัวเพียง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหดตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
รายงานของสำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของตัวเลขจีดีพีญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวลง 0.6% ในไตรมาสแรก ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนปรับตัวลดลง 0.9% และการลงทุนในภาคสาธารณะลดลง 1.3%
ยอดส่งออกสุทธิของญี่ปุ่น หดตัวลง 2.05 ในไตรมาสแรก เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคพื้นฐานหลายแห่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว นอกจากนี้ ภัยพิบัติดังกล่าวยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการลำเลียงขนส่งชิ้นส่วนสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆไปยังต่างประเทศด้วย
ขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นหดตัวลง 34.3% เนื่องจากผลกระทบของแผ่นดินไหว และการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นสูงขึ้นด้วย
ส่วนในปีงบประมาณ 2553 นั้น จีดีพีที่แท้จริงของญี่ปุ่นขยายตัว 2.3% จากปีงบประมาณก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นการขยายตัวแรกในรอบ 3 ปี
นายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการคลังของญี่ปุ่นกล่าวว่า การจีดีพีไตรมาสแรกหดตัวลงอย่างหนักนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายโยซาโนะได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน