นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 มีจำนวน 4,246,114.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.28 ของ GDP
โดยเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,988,845.39 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,065,872.13 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 160,340.27 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 31,056.89 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 11,295.13 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน ลดลง 12,133.92 ล้านบาท และ 308.81 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 673.22 ล้านบาท และ 474.38 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง
รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของหนี้สาธารณะ มีดังนี้ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง แบ่งเป็น หนี้ในประเทศ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1,884.49 ล้านบาท โดยที่สำคัญเกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 24,500 ล้านบาท และ การไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 21,000 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงจากเดือนก่อน 1,211.27 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 21.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.62 ล้านเหรียญสหรัฐ, สกุลเงินเหรียญแคนาดาได้มีการชำระคืนประมาณ 0.42 ล้านเหรียญแคนาดา หรือคิดเป็น 0.44 ล้านเหรียญสหรัฐ, สกุลเงินเยนได้มีการชำระคืนประมาณ 49.83 ล้านเยน หรือคิดเป็น 0.60 ล้านเหรียญสหรัฐ และสกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการชำระคืนประมาณ 0.64 ล้านเหรียญสหรัฐ