นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้แต่ละพรรคการเมืองต่างแข่งขันกันชูนโยบาย รวมทั้งจัดทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นประชาชนควรจะช่วยกันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อให้การบริหารประเทศเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี
ส่วนรัฐบาลที่ภาคเอกชนอยากเห็นที่สุด คือ เป็นรัฐบาลที่มีลักษณะการเป็นผู้นำ สามารถประสานได้ทุกกลุ่มการเมือง และเน้นเรื่องการปรองดอง ความสามัคคี โดยเฉพาะช่วงหลังการเลือกตั้ง เพราะภาคเอกชนต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และอยากให้ลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
พร้อมมองว่า รัฐบาลจะต้องมีนโยบายทางด้านเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงงาน นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะต้องดูแลเรื่องเงินเฟ้อเป็นพิเศษ เพราะในหลายประเทศกำลังเจอกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่วนประเทศไทยเองแม้ว่าเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับ 3% แต่ก็ต้องระมัดระวังและคอยจับตาดูให้ดี
ดังนั้น ไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล ภาคเอกชนก็สามารถยอมรับได้ทุกพรรค เพราะต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล ขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็ต้องทำงานร่วมกับเอกชน และประชาชน
"ต้องการให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ หากเศรษฐกิจของประเทศดี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนก็จะดีตามไปด้วย และรัฐบาลก็จะมีเม็ดเงินจากการเก็บภาษีมากขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป" นายพยุงศักดิ์ กล่าว
สำหรับนโยบายประชานิยมที่ขณะนี้หลายพรรคการเมืองได้ใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงนั้น ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณาว่าจะใช้อย่างไรให้เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนส่วนใหญ่ ควรจะต้องดูระยะเวลาให้เหมาะสมด้วย เพราะบางเรื่องหากใช้นานจนเกินไปอาจทำให้เป็นการบิดเบือนกลไกตลาดได้