สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองและดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่ร่วงลงเกินคาด ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,492.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,485.80-1,499.60 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.อ่อนตัวลง 16.5 เซนต์ ปิดที่ 34.932 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 5.25 เซนต์ ปิดที่ 4.0525 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่งลง 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,769.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 728.15, ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่น่าผิดหวังของสหรัฐทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และได้ลดการถือครองทองคำ
สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 5.05 ล้านยูนิตต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.20 ล้านยูนิตต่อปี
ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐหดตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวลดลง ซึ่งอาจทำให้ตลาดทองคำขาดปัจจัยหนุนในระยะใกล้นี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐ ซึ่งเทรดเดอร์ใช้เป็นมาตรวัดการคาดการณ์เงินเฟ้อนั้น ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.36% เมื่อคืนนี้ จากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ระดับ 2.67% นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ยังทำให้กระแสความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อลดน้อยลงด้วย