นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร โดยกำหนดราคาปุ๋ย 6 สูตร คือ 46-0-0, 16-20-0, 16-16-8, 16-8-8, 18-12-6 และ 15-15-15 พร้อมเห็นชอบให้มีการชดเชยส่วนต่างราคาปุ๋ยเคมีให้แก่ผู้ข้าร่วมโครงการนี้ ในอัตรากิโลกรัมละ 1.50 บาทหรือตันละ 1,500 บาท
ทั้งนี้ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรในโครงการประกันรายได้ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ปี 53/54 ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรรวม 4,786,160 ราย โดยจะได้รับการชดเชยตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่มีสิทธิตามโครงการประกันรายได้ ซึ่งงบประมาณที่ใช้ดำเนินการมีจำนวนทั้งสิ้น 3,901 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินชดเชยส่วนต่างราคาปุ๋ย 3,450 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นค่าดำเนินการและค่าอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ
การเข้าร่วมโครงการกรณีเกษตรกรประสงค์จะซื้อปุ๋ยเป็นเงินสด สามารถนำเงินสดมาชำระค่าปุ๋ยที่สาขาธนาคาร ซึ่ง ธ.ก.ส. จะออกใบจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรไปรับปุ๋ย ณ ร้านที่ขึ้นทะเบียน โดยร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนจะจ่ายปุ๋ยตามใบจัดหาปุ๋ย จากนั้น ธ.ก.ส. จะโอนเงินค่าปุ๋ยให้ร้านค้า ตามใบจัดหาปุ๋ย ส่วนกรณีเกษตรกรที่ประสงค์จะขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. เพื่อนำมาซื้อปุ๋ย
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้เตรียมวงเงินไว้ทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR หรือร้อยละ 7 ต่อปี ให้เกษตรกรกู้เงินซื้อปุ๋ยเกษตรกรต้องทำสัญญากู้เงินซื้อปุ๋ย โดย ธ.ก.ส. จะออกใบจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรไปรับปุ๋ย ณ ร้านขึ้นทะเบียน และร้านขึ้นทะเบียนจ่ายปุ๋ยตามใบจัดหาปุ๋ย จากนั้น ธ.ก.ส. จึงจะโอนเงินค่าปุ๋ยให้ร้านค้า ตามใบจัดหาปุ๋ย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรและอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ ธ.ก.ส. ได้มีการขึ้นทะเบียนร้านค้าปุ๋ยในท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจำนวนกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ