รายงานข่าว แจ้งว่า กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ได้มารวมตัวชุมนุมที่บริเวณกระทรวงพลังงาน อาคารเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อยื่นหนังสือต่อกระทรวงพลังงานให้เร่งรัดการดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนการใช้ก๊าซปิโตรเหลียมเหลว (LPG) มาเป็นก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (NGV) สำหรับรถแท็กซี่ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 ส.ค.52 ที่ให้จัดซื้อถังและอุปกรณ์ NGV จำนวน 3 หมื่นชุด ชุดละ 4 หมื่นบาท เป็นเงิน 1,200 ล้านบาท เพื่อลดการนำเข้า LPG แต่ขณะนี้การดำเนินการล่าช้ากว่าปกติ ซึ่งผู้ชนะการประกวดราคา คือ ออโต้แพน ได้บอกเลิกสัญญาไปยิ่งทำให้โครงการล่าช้าออกไปอีก
ดังนั้นขอให้กระทรวงพลังงานชดเชยเงินให้กับแท็กซี่เพื่อนำไปเปลี่ยนอุปกรณ์ด้วยตนเอง หรือขอให้กระทรวงเสนอเปลี่ยนเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้างให้เร็วขึ้น โดยขอให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งหากไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ทางกลุ่มแท็กซี่จะนัดรวมตัวกันครั้งใหญ่ในสัปดาห์หน้า และยังร้องเรียนด้วยว่าขณะนี้การบริการเติมก๊าซ NGV มีการรอคิวนานจึงขอให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว
ทั้งนี้ นายอำนวย ทองสถิตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียน และระบุว่าทางกระทรวงฯ จะเร่งหารือโดยเร็วว่าจะดำเนินการตามข้อเสนอของกลุ่มคนขับแท็กซี่ได้หรือไม่ ซึ่งหากประมูลอีออกชั่นรอบใหม่จะใช้เวลาเร็วสุด 2-3 เดือน แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ช่วงนี้เป็นช่วงเลือกตั้ง หากดำเนินการเปลี่ยนเชื้อเพลิงแท็กซี่พร้อมกันทั้งหมดตามที่แท็กซี่มาสมัคร 5,834 คัน จะใช้งบฯ จะสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่เหนืออำนาจของปลัดกระทรวงฯ ที่จะอนุมัติได้ แต่ต้องเสนอ รมว.พลังาน เป็นผู้อนุมัติ ซึ่งตามกฏหมายการเลือกตั้งแล้วระบุว่าในช่วงเลือกตั้ง รัฐมนตรีฯไม่สามารถอนุมัติงบฯ ได้ ดังนั้นคงจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร หรืออาจจะจัดแบ่งการประมูล หรือการเปลี่ยนเชื้อเพลิงออกเป็นรอบเล็กๆ วงเงินต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้ปลัดกระทรวงพลังงานมีอำนาจอนุมัติได้