กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ค.ร่วงลง 29,000 ราย สู่ระดับ 409,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดมาอยู่ที่ระดับ 420,000 ราย
-- สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 5.05 ล้านยูนิตต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.20 ล้านยูนิตต่อปี
-- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐหดตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้า
-- นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เร่งสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ทันที หลังจากที่นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศพนักงานทำความสะอาดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก
-- ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.1% และยังได้มีมติให้คงกองทุนซื้อสินทรัพย์วงเงิน 10 ล้านล้านเยน รวมทั้งคงนโยบายผ่อนปรนทางการเงินในการประชุมวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
-- นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเผยต้องการให้ผู้แทนจากยุโรปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คนต่อไป
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า อัตราการออมที่อยู่ในระดับสูงของจีนอาจจะทำให้การลงทุนสูงขึ้นจนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างร้อนแรงเกินไป หรืออาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ พร้อมกับเรียกร้องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระมัดระวังว่าจะเกิดวงจรด้านลบที่เป็นผลมาจากการออมที่อยู่ในระดับสูง
-- สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการทองคำทั่วโลกจะยังคงแข็งแกร่งตลอดปี 2554 ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก นอกจากนี้ คาดว่าตลาดทองคำจะได้แรงหนุนจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ความต้องการกระจายความเสี่ยง และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
-- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตทองคำของจีนในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 3.25 ตัน หรือ 4.63% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 73.41 ตัน
-- นายมาซาทากะ ชิมิสึ ประธานบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ หรือเทปโก ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว เพื่อรับผิดชอบกับการขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งมีสาเหตุมาจากต้นทุนในการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากวิกฤตนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี โดยนายโตชิโอะ นิชิซาว่า กรรมการผู้จัดการจะขึ้นมาทำหน้าที่ประธานคนใหม่ของบริษัทแทน
-- บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมียอดขาดทุนสุทธิสูงถึง 1.25 ล้านล้านเยนในปีงบการเงิน 2553 เมื่อเทียบกับปีงบการเงิน 2552 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.3378 แสนล้านเยน เนื่องจากบริษัทต้องแบกรับต้นทุนความเสียหายมูลค่ามหาศาล ซึ่งเป็นผลมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ