บรรดาผู้นำยุโรปต่างแสดงท่าทีสนับสนุนนางคริสติน ลาการ์ด รมว.คลังฝรั่งเศส ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คนใหม่ แทนนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ด้วยเหตุผลที่ว่านางลาการ์ดมีคุณสมบัติเหมาะสม ทั้งในด้านนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน
นอกเหนือจากคะแนนเสียงสนับสนุนจากผู้นำในยุโรปแล้ว โอกาสที่นางลาการ์ดจะนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟยังสูงขึ้นอีกเมื่อเมื่อนายเคมาล เดอร์วิส อดีตรมว.คลังตุรกี ประกาศสละสิทธิ์ในการลงชิงตำแหน่งดังกล่าว โดยนายเดอร์วิสกล่าวว่า เขาพอใจกับการทำงานที่สถาบันบรู๊คลินในกรุงวอชิงตันมากกว่า ทั้งนี้ นายเดอร์วิสเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและเคยทำงานที่ธนาคารโลกมานานถึง 24 ปี ก่อนที่จะมารับตำแหน่งรมว.คลังตุรกี จากนั้นได้ลาออกมาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันบรู๊คลินจนถึงปัจจุบัน การสละสิทธิ์ของนายเดอร์วิสทำให้ทำให้ผู้ชิงตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟจากประเทศนอกทวีปยุโรปเหลือเพียงนายเธอร์มาน ชานมูการัทนาม รมว.คลังสิงคโปร์ และนายมอนเท็ค ซิงห์ อาห์ลูวาลัย นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของอินเดีย
นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงท่าทีสนับสนุนนางลาการ์ดตั้งแต่เริ่มแรก และยังกล่าวด้วยว่าผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟคนใหม่ควรเป็นชาวยุโรป เพราะไอเอ็มเอฟมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ขณะที่นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้สนับสนุนนางลาการ์ด โดยกล่าวว่าลาการ์ดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และนายอังเดรส์ บอร์จ รมว.คลังสวีเดนได้ให้การสนับสนุนนางลาการ์ดเช่น โดยกล่าวผ่านสื่อมวลชนว่าลาการ์ดเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเงิน
อย่างไรก็ตาม นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนนางลาการ์ด เพราะเกรงจะถูกวิพากษ์วิจารย์ว่าสนับสนุนคนในชาติเดียวกัน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนนางลาการ์ดหรือไม่
ทั้งนี้ นางลาการ์ด วัย 55 ปีถือเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง และคาดว่าจะเป็นสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ นอกจากนี้ ลาการ์ดยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นรัฐมนตรีคลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุโรป จากการสำรวจของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ในปี 2552
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ไอเอ็มเอฟจะทำการแต่งตั้งผู้อำนวยการคนใหม่แทนนายสเตราส์-คาห์น ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งดังกล่าวในระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 10 มิ.ย.เสร็จสิ้นลง ซึ่งหากชื่อที่ได้รับการเสนอมีมากกว่า 3 ชื่อ คณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟก็จะดำเนินการกลั่นกรองและทบทวนคุณสมบัติ กระทั่งรายชื่อทั้งหมดลดลงมาเหลือเพียง 3 ชื่อ โดยไอเอ็มเอฟระบุว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟซึ่งเป็นสถาบันระดับโลกนั้น ควรเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสที่มีประวัติโดดเด่นในด้านการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งมีทักษะด้านบริหารจัดการและการทูต